ในที่สุดก็ได้ไปญี่ปุ่นกับเค้าซักที เย้! ไม่มีใครรู้หรอกว่านี่เป็นครั้งแรก มันยากที่จะเชื่อเพราะว่า ญี่ปุ่นเนี่ยเป็นที่เที่ยวอันดับต้นๆเลย ที่คนจะไป เห็นรูปตามหน้าฟีดโซเชียลอยู่ตลอดเวลา ตอนเรานั่งอยู่บ้านแล้วดูรูปพวกเธอไปเที่ยวนั้น ก็เหมือนไปเที่ยวบ่อยเองแล้วไง จนรู้สึกคุ้นเคยว่าชั้นเองก็เคยมาประเทศนี้มาก่อน แล้วก็จนได้ที่ตัดสินใจมาเองแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วการเที่ยวแบบแบ๊กแพคนั้นมันเป็นสไตล์ของเรา จะได้เรียนรู็วิถีโลคอล
เราเองรู้ที่เราเห็นมากมายตามโซเชียล ยังไง๊ก็ไม่เหมือนกับการมาเห็นด้วยตาตัวเองหรอก จริงมั้ย ? ประเทศญี่ปุ่นเนี่ย โครตเป็นตัวของตัวเองเลยตั้งแต่วัฒนธรรมรวมถึงความมีรายละเอียดในทุกๆอย่าง ที่ทำให้เรานั้นหลงเสน่ห์ อยากจะไปอีกหลายๆ รอบ เลย
และนี่คือสิ่งที่เราเรียนรู้จากการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก เรายกบางอย่างมา จริงๆ มีอะไรที่เราแปลกใจและน่าคนหาอีกมากกับประเทศนี้ ถ้าเพื่อนๆ กำลังแพลนไปเร็วๆนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ควรสังเกตก่อนไปจริง แต่ถ้าเคยไปมาแล้วลองอ่านดูนะ อาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยแล้วบอกเราด้วยนะ 🙂
ตรงต่อเวลา
ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถไฟหรือรถสาธารณะ ก็จะมีตารางเวลาให้เห็นอยู่ทุกที่ เวลานาทีนั้นจะตรงเป๊ะๆ มากๆ เราสามารถเช็คจากเว็บไซต์เค้าได้ด้วยนะ ถ้าเรารู้ว่าสายไหนเป็นของบริษัทอะไร ก็สามารถเข้าไปเช็คได้ล่วงหน้าเลย แค่นี้เราก็สามารถวางแผนได้ล่วงหน้า ทำให้การท่องเที่ยวของเราไม่เสียเวลามาก ซึ่งสะดวกมากๆ เลย แต่อย่าลืม เวลาที่โชว์เนี่ยเป็นเวลารถออกนะ คือรถจะมาล่วงหน้า แต่ถ้าพลาดขึ้นมาเนี่ยก็รอรอบถัดไปเลยจ้า เวลาทำการนั้นเนี่ยก็เป๊ะมากด้วยเช่นกันนะ อ่านได้ตามป้ายชัดๆเลย ถ้าพลาดแค่ก้าวเดียว เค้าก็ปิดประตูเลยนะจ๊ะ จะอ้อนจะวอนเท่าไหร่ก็ไม่มีผล
การเดินทาง
การเดินทางโดยรถไฟที่ญี่ปุ่นหน่ะสุดยอด เพื่อนๆสามารถเดินทางข้ามจังหวัดโดยรถไฟหัวจรวดความเร็วสูงด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว ถ้าซื้อพาสไปด้วยละก็ ดูเงื่อนไขดีๆ นะจ๊ะ บางครั้งก็ไม่เสมอไปที่พาสจะครอบคลุมเส้นทางที่เราจะไป ยังไง๊ ยังไงก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มอยู่ดี สำหรับใครที่มองความคุ้มค่า การเดินทางแบบรถบัสข้ามเมืองก็สะดวกดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีกับคนที่กำลังปวดหัวกับพาส บางเส้นทางเดินทางโดยบัสนั้นใช้เวลาสั้นกว่ารถไฟซะอีก แท๊กซี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะแต่ก็ราคาสูงนิดนึงโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนจะแพงกว่าปกติมากๆ เราว่าการเดินทางโดยการขนส่งสาธารณะสำหรับเรา เวลาออกนอกเมือง ในหลายๆเมือง ค่อนข้างลำบาก หลังเวลาทำการโดยมากหลังหนึ่งทุ่ม ต้องคอยดูเวลารอบสุดท้ายว่าเมื่อไหร่ อย่าคิดว่าจะมีให้ขึ้นตลอดเวลา การเดินทางโดยรถไฟบางขบวนมีโบกี้สำหรับผู้หญิงด้วยนะ เหมาะสำหรับโซโลทราเวลเล่อสาวๆ อ้อเวลาอยู่ในรถหรือรถไฟสาธารณะเนี่ยเค้าจะเงี๊ยบ เงียบ เม้ากันเบาๆ แล้วอย่าลืมปิดเสียงหรือเปิดโหมดสั่นในโทรศัพท์ด้วยล่ะ
ห้องน้ำ
เพื่อนๆสามารถ หาห้องน้ำสะอาดๆ ได้ทุกทีเลยในญี่ปุ่น เป็นไงตื่นเต้นล่ะซี่ สบายล่ะทีนี้! บางที่มีที่รองก้นอุ่นด้วยจ้า มีปุ่มมากมายอันน่าตื่นเต้นให้เลือกเล่นตามชอบ จะเลือกฉีดน้ำบริเวณไหน บางที่มีเสียงดนตรีไว้กลบเสียงเวลาที่เรากำลังทำธุระ ดีงาม มีกลิ่นหอม เป่าลมให้ด้วย และไอเดียรักษ์โลกอีกอย่างที่เราชอบก็คือ ล้างมือบนแท๊งค์น้ำชักโครก แล้งเอาน้ำล้างมือนั้นแหละไว้กดชัดโครกอีกที ใส่ใจรายละเอียดกันกับสุขภัณฑ์ขนาดนี้กันเลยเชียว ห้องน้ำทุกที่ที่เข้า สะอ๊าด สะอาด อีกอย่างที่ประทับใจคือ เค้าจะมีกระดาษชำระพิเศษที่เราสามารถทิ้งลงโถได้เลย เพราะว่ากระดาษชนิดนี้สามารถละลายน้ำได้ภายในไม่กี่วินาที สุดท้ายกับความประทับใจ เพื่อนๆสามารถทดลอง ยองๆ แบบห้องน้ำแบบสไตล์ญี่ปุ่นได้ด้วยนะ
เก็บขยะของตัวเองกลับบ้าน
ถังขยะในที่สาธารณะนั้นหายากมากๆๆๆ แล้วบ้านเมืองเค้าสะอาดจนต้องขนขยะกลับโรงแรมหรือไม่ก็เก็บไว้จนกว่าจะเจอถังขยะซักอัน วัฒนธรรมเค้าเป็นแบบนี้จริงๆ เราเรียนรู้จากป้ายในญี่ปุ่นว่า “อย่าทิ้งขยะ มันผิดกฏหมาย” ซึ่งนั่นก็อธิบายได้ว่าทำไมญี่ปุ่นถึงสะอาดและมีวินัยขนาดนี้ ทุกๆบ้านจะมีการจัดการการเก็บขยะโดยใช้ถุงพลาสติกแบบพิเศษที่ซื้อจากรัฐบาล แล้วรถเก็บขยะนั้นจะมาตามวันและเวลาที่กำหนดในสัปดาห์ ทุกคนจะออกมายืนรอตามเวลา เพราะเค้ารับผิดชอบขยะของตัวเอง
คนญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นน่ารักมาก ใจดี ยิ้มเก่ง ชอบช่วยเหลือ เรามักจะเดินเข้าไปถามเวลาเราหลงทาง เค้าจะพยายามทำความเข้าใจและช่วยเหลือมากที่สุดที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าเค้าอาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูดหรือที่เราสื่อสารบางทีเค้าจะพูดภาษาอังกฤษกับเราไม่ได้ เค้าก็แอบพยายามพูดภาษาญี่ปุ่นกับเราโดยหวังว่าเราคงจะเข้าใจ หรือไม่ก็จากน้ำเสียงที่เค้าพยายามสื่อ หรือภาษามือก็เถอะ หลังจากบทสนทนานั้นจบ เค้าจะคอยดูว่าเราไปถูกทางนะ น่ารักขนาดนี้อย่าเหนื่อยเลยกับการที่จะพูดกับพวกเค้าทุกครั้งว่า “อา-ริ-กา-โตะ-โก-ไซ-มัส-สุ” แปลว่าขอบคุณมากๆ ค่าา
น้ำพุน้อย
ส่วนใหญ่จะเจอบ่อยๆ ในเมืองเก่าหรือเมืองที่เป็นมรดกโลก เราได้มีโอกาศไปเมืองสวยๆ วัดที่เป็นเอกลักษณ์หลายๆ เมือง ที่ทำให้เรารู้สึกถึงวัฒนธรรมของเมืองๆนั้น ทุกๆหน้าวัดมักจะมีน้ำพุเล็กๆ และกระบวยตักน้ำ ไว้เพื่อให้คนที่มาเยี่ยมได้ล้างมือ บ้วนปาก ซึ่งเป็นความเชื่อของเค้าว่าจะเป็นการชำระล้างร่างกายและจิตใจของคนที่มาเยี่ยมเยียนก่อนที่จะเข้าไปภายในบริเวณวัด
ผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น
มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่เราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่จะได้มาเห็นที่นี่ เรารู้สึกสนุกมาก ตื่นตาตื่นใจไปหมด มันทำให้เราหลงเลย ใช้เวลาไปกับหลายๆร้านในย่านช๊อปปิ้ง สมุนไพรบ้างล่ะ วิตามินบ้างล่ะ หลายๆ ผลิตภัณฑ์เรายังไม่รู้ว่าเราจะต้องการไปทำไม แต่มันเชิญชวนให้เราลอง อย่างเช่น ยาทาสำหรับรอยข่วนบนร่างกาย เมคอัพสำหรับทำให้ฟันขาว ร้านขายของราคาถูกอย่างดองกิโฮเต้หรือ ร้านขายยามัตสุโมโตเป็นร้านที่แนะนำว่าจะต้องลองไป ช๊อปปิ้งแบบปลอดภาษีก็ได้นะถ้าไปร้านนี้ในย่านนักท่องเที่ยว ไม่ต้องไปทำเรื่องคืนเงินภาษีค่าช๊อปปิ้งให้เหนื่อยที่สนามบิน
พกเงินสดไปด้วย
บางร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้อหรือโฮสเทลโดยทั่วไปมักจะไม่ได้รับบัตรเครดิต ให้เพื่อนๆ แน่ใจว่าเราพกเงินไปพอกับการท่องเที่ยวด้วยนะ ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องหาที่กด เอทีเอ็มซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะรับประเภทบัตรที่เรามีหรือเปล่า ถ้าขึ้นรถบัสเนี่ย ต้องเตรียมเงินให้พอดีเลยหล่ะ ไม่อย่างงั้นก็ไม่การันตีนะว่าเค้าจะทอนเงินให้ไหม เพราะคนขับบางทีเค้าแทบไม่ได้จับเงินเลย หยอดลงตู้อย่างเดียว
เครื่องขายของอัตโนมัติ
มีเครื่องขายของอัตโนมัติวางอยู่มากมายเห็นได้ระหว่างทาง บางอย่างเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันขายแบบนี้ก็ได้ เช่น ของที่ระลึก ร่ม ไอสกรีม หรืออาหารค่ำอุ่นๆ และอีกหลายๆอย่าง หลังจากที่เราซื้ออาหารจากเครื่องขายของอัตโนมัติถ้าเราจะกินเลยเนี่ย ห้ามเดินกินนะจ๊ะ เพื่อนๆ จะต้องหาที่นั่งเพื่อที่จะกินให้เรียบร้อย ห้ามกินไปเดินไปด้วยนะ
บางร้านอาหารใหญ่ๆ ที่เห็นอยู่บ่อยๆ ก็จะมีเครื่องออเดอร์อาหารหน้าร้านอยู่ให้เราหยอดเงินแล้วเราจะได้บัตรมา พอได้แล้วให้ไปนั่งที่โต๊ะหรือรอเรียกได้เลย เค้าจะมาเสริฟหรือเรียกเราตามคิวเวลาอาหารที่เราสั่งทำเสร็จแล้ว พนักงานในครัวหรือในร้านเนี่ย ไม่ได้แตะเงินเลย ทำอย่างเดียว ที่ญี่ปุ่นเค้าไม่รับทิปเลยอ่ะ ให้ไปก็เหมือนเสียมารยาทด้วยซ้ำ
ซอฟครีม
โอ้ยย ชอบมากซอฟครีมเนี่ย ถือแล้วรู้สึกชิค แนะนำเลยต้องเสียตั้งค์ซื้อซักร้านหน่า อย่าพลาดนะ มีหลายๆ รส หลายๆสีให้ลอง อย่างเช่น ชาเขียว ลาเวนเดอร์ ดอกวิสเทอเรีย งาดำ แล้วก็อีกหลายๆ อย่าง ที่เราว่าถ้าได้ไปคราวหน้า จะไปลองอีกหลายๆ รสเลย
No Comments