
เราก็เป็นคนนึงที่ติดลิปบาล์มมาก ใช้ตลอดทั้งวันจะต้องอยู่ติดตัวตลอดเวลา ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช้หน้าหนาวก็เถอะ ใช้ตลอดไม่เกี่ยวกับสภาวะอากาศเพราะว่าปากเราต้องการการดูแลบำรุงก็เหมือนๆกันกับส่วนอื่นๆในร่างกาย เวลาออกจากบ้านถ้าไม่ได้เอาไปจะรู้สึกขาด ไม่สบายปาก ครั้งหน้าก่อนออกจากบ้านบอกตัวเองว่าต้องอย่าลืมหยิบติดตัวมาด้วยนะ ส่วนมากเราจะใช้ลิปบาล์มหลังจากอาบน้ำ แปรงฟัน หลังอาหาร หรือ กิจกรรมอื่นๆ ที่จะทำให้ความชุ่มชื้นของปากเราหายไป
เราชอบทำลิปบาล์มใช้เอง ไม่เคยซื้ออีกเลยหลังจากทำเองได้ เหตุผลข้อแรกเลยเพราะเราว่าลิปบาล์มที่เราคิดไว้ควรจะต้องกินได้แล้วก็ไม่มีส่วนผสมอะไรที่อันตรายที่เป็นสารเคมีเพราะว่าเราจะต้องทามันบนปาก บางทีเราก็เผลอเลียปากบ้าง เผลอๆ กินเข้าไปโดยที่เราเองอาจจะไม่รู้ตัวหรอก เราก็เลยมักจะมองหาลิปบาล์มที่มีส่วนประกอบทั้งหมดจากธรรมชาติ
เหตุผลข้อสองคือเราเองจะแพ้ส่วนผสมที่ทำจากขี้ผึ้ง และแน่นอนคือบางวันที่เรากินเจ ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราก็ไม่อยากจะใช้ลิปบาล์มที่ทำมาจากขี้ผึ้ง เพราะเป็นไขที่มาจากสัตว์เราก็เลยมักจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพืชดีกว่า เหตุผลข้อสามของเราคือ มันก็เป็นผลพวงจากการที่เราเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดผลิตขยะ หรือปราศจากขยะได้ยิ่งดี จากการทำผลิตภัณฑ์ใช้เองแทนการซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ เมื่อเห็นด้วยกับเหตุผลสามข้อนี้แล้ว เรามาทำลิปบาล์มเองใช้กันเถอะ!
ส่วนประกอบ – อาจจะต้องปรับสูตรให้เหมาะกับปริมาณที่เราจะทำนะคะ สูตรนี้เราทำเพื่อใช้เองในปริมาณน้อยๆ เพราะว่าเรามีตลับสังกะสี 5 กรัม แต่ตลับแค่นี้ก็ใช้ได้ประมาณ 2 เดือนแหน่ะ ขนาดเราเองใช้หลายๆครั้งใน 1 วัน เราไม่ได้ใส่สารกันเสียเราก็เลยไม่อยากเก็บนาน ถึงแม้ว่า vitamin E ที่เป็น antioxidant จากธรรมชาติจะมีสารที่ทำให้ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ข้อดีก็คือหลังจากเราใช้หมดแล้วเราก็เปลี่ยนกลิ่นไปเรื่อยๆ ไง สาวๆคงอาจจะคิดว่า ชีวิตเราจะดูน่าเบื่อเกินไปหน่อยถ้าใช้ลิปบาล์มแค่กลิ่นเดียวใช่ไหมคะ พูดถึงก็อยากลองทำกลิ่นใหม่ดูแล้วล่ะ
และแล้วเวลาแห่งความสนุกก็เริ่มขึ้น …
เราใช้ช้อนตวงกาแฟสเตนเลสในการละลายและอุ่นแว๊กซ์และส่วนผสมต่างๆ ซึ่งมันก็เหมาะกับปริมาณที่เราต้องการจะทำพอดี สำหรับใครที่จะใช้หม้อต้มหรือวิธี double boiler ก็สามารถทำได้ค่ะ ก่อนที่จะเริ่มทำเรามักจะเตรียมทำความสะอาดพื้นผิวรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยแอลกอฮอร์ 75% แบบสเปร์ และก็จุดเทียนหอมเปิดเพลงชิวๆ
เราใช้แคนเดลิลลาแว๊กซ์ประมาณ 10 เม็ดเล็ก เวลาซื้อแว๊กซ์มาเค้าจะทำเป็นหยดเม็ดเล็กๆเพื่อความสะดวกในการใช้ ปริมาณแค่นี้ก็พอจะทำให้ลิปบาล์มของเราเป็นเนื้อครีม เราไม่อยากให้ลิปบาล์มของเรามีความแข็งเกินไป และยากต่อการใช้ เพราะเนื้อจะแข็งไป ต่อไปก็ใส่แคนเดลิลลาแว๊กซ์ละลายไปกับน้ำมันมะพร้าวซักนิดนึงก่อนพอให้แว๊กซ์ละลายแล้วค่อยเติมน้ำมันมะพร้าวและส่วนผสมอื่นๆ วิตามิน น้ำมันเมล็ดโรสฮิปลงไป แล้วนำออกจากความร้อนแล้วค่อยใสน้ำมันเปปเป้อมิ้นต์
เราว่าใครๆ ก็ชอบลิปบาล์มที่มีกลิ่นอ่อนๆ มากกว่ากลิ่นแรงๆ นะ เพราะเราใช้กับปากมันอยู่ใต้จมูกเราไง ได้กลิ่นฉุนไปอาจจะทำให้เวียนหัวได้เพราะฉะนั้นทดลองค่อยๆ ใส่น้ำมันหอมระเหยในปริมาณน้อยๆ ก่อนถ้าไม่พอค่อยเพิ่มจะดีกว่า หลังจากคนให้ส่วนผสมเข้ากันเรียบร้อยแล้ว ก็เทลงในตลับน่ารักๆ ของเรา ถึงเวลานี้เราก็มีเวลาเต้นตามจังหวะเพลงซะหน่อย รอจนลิปบาล์มเย็นลงและเซตตัว ถึงเวลาเพื่อนๆ ก็รู้เองแหละว่าเมื่อไหร่จะเริ่มใช้ได้ ลองทำดูนะ!
หลังจากใช้ลิปบาล์มนี้แล้วเราชอบมาก ทำซ้ำไป 3-4 รอบแล้วเพราะว่ามีกลิ่นอ่อนๆ ของมะพร้าวแล้วเราชอบกลิ่นมิ้นต์ เนื้อสัมผัสก็ดี พอใช้แล้วรู้สึกว่าริมฝีปากนุ่มลื่น คงความชุ่มชื้นได้เป็นเวลานานอยู่ เราหวังว่าเพื่อนๆคงจะชอบเหมือนที่เราชอบนะ ลองทำดูนะ สนุกดี! ถ้าชอบเหมือนกันอย่าลืมบอกกันด้วยนะ

- 10 ดรอปเล็ต แคนเดลิลลา แว๊กซ์
- 10 หยด น้ำมันเมล็ดโรสฮิป
- 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Extra Virgin)
- 2 แคปซูล วิตามินอี (Non-GMO)
- 2 หยด น้ำมันเปปเปอมิ้นต์
-
เตรียมทำความสะอาดพื้นผิวรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยแอลกอฮอร์ 70% แบบสเปรย์
-
จุดเทียนหอมถ้าทำในปริมาณน้อย หรือจะใช้วิธี double boiler ก็ได้
-
ใส่แคนเดลิลลาแว๊กซ์ประมาณ 10 เม็ดเล็ก ละลายไปกับน้ำมันมะพร้าวซักนิดนึงก่อนพอให้แว๊กซ์ละลายแล้วค่อยเติมน้ำมันมะพร้าว น้ำมันเมล็ดโรสฮิป และ วิตามินอีลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
-
เอาออกจากความร้อนแล้วใส่น้ำมันเปปเปอมิ้นต์แล้วคนให้เข้ากัน
-
เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ และรอจนเย็นและเซตตัวดี
-
เสร็จแล้วก็ลองใช้ได้เลย!
No Comments